การสร้างแบบ ภ.พ.30 ด้วยระบบ PEAK Tax
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการจัดทำรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ระบบ PEAK Tax ได้ออกแบบฟีเจอร์ที่ช่วยรวบรวมและสรุปตัวเลขทางบัญชีอย่างครบถ้วน ช่วยให้สามารถนำข้อมูลไปกรอกแบบยื่นภาษีผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ลดขั้นตอนการคำนวณด้วยตนเอง และเพิ่มความมั่นใจในการจัดทำภาษีประจำเดือน
แนะนำสัมมนา: หากคุณอยากยื่นภาษีรายเดือนผ่าน e-filing ด้วยตนเองได้
หลักสูตร "Workshop การจัดการภาษีรายเดือนสำหรับเจ้าของธุรกิจ"
แม้ไม่เคยใช้ PEAK Tax หรือไม่เคยยื่นภาษีด้วยตนเองมาก่อนก็สามารถทำได้ใน 1 วัน
ใครที่กำลังปวดหัวกับการจัดการภาษีรายเดือน ห้ามพลาด!! ลงทะเบียนรุ่นถัดไปคลิก
ขั้นตอนการสร้างแบบ ภ.พ.30 กรณียื่นปกติ ภายในกำหนดเวลา มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
ดึงข้อมูลรายการภาษีขายและภาษีซื้อ
สร้างแบบ ภ.พ.30
บันทึกปิดบัญชีภาษีซื้อ ภาษีขาย
ยื่นแบบฟอร์มและชำระเงิน
ดูการบันทึกบัญชี
ขั้นตอนการสร้างแบบ ภ.พ.30
1. ดึงข้อมูลรายการภาษีขายและภาษีซื้อ
1. ดึงข้อมูลรายการภาษีขายและภาษีซื้อ
คู่มือการดึงข้อมูลแบบ ภ.พ.30 https://bit.ly/3REKhXg
หมายเหตุ: หากกิจการใดมีการตั้งค่าการดึงข้อมูลอัตโนมัติ (Auto Fecth) มาแล้ว ให้ข้ามไปทำรายการขั้นตอนที่ 2 ได้เลย
2. สร้างแบบ ภ.พ.30
2. สร้างแบบ ภ.พ.30
ไปที่เมนูภาษีมูลค่าเพิ่ม > แบบ ภ.พ.30 > สร้างแบบ ภ.พ.30
หน้าสร้างแบบภ.พ.30 จะเป็นการแสดงผลงวดล่าสุดที่ต้องนำส่งแบบ
รายการภาษีขาย
รายการภาษีขาย
ระบบจะดึงข้อมูลใบกำกับขายที่อยู่ในงวดภาษีให้อัตโนมัติ สามารถตรวจสอบข้อมูลภาษีขายหรือต้องการให้ AI ช่วยในการตรวจสอบ กดปุ่มตรวจสอบ
หมายเหตุ: หากไม่ต้องการนำภาษีขายฉบับไหนมายื่นแบบ สามารถนำปุ่ม Checkbox ออกได้
AI จะทำการตรวจสอบข้อมูล
หากพบรายการผิดปกติ ระบบจะแสดงธงแดง/เหลือง
ธงสีแดง: รายการที่ควรตรวจสอบ เช่น รายการภาษีขายมีวันที่ ยอดเงินและผู้ติดต่อเหมือนกัน อาจมีรายการซ้ำได้ ระบบจะขึ้นธงสีแดง
ธงสีเหลือง: รายการที่แนะนำให้ตรวจสอบ เช่น รายการภาษีขายมีวันที่ ยอดเงินเหมือนกันแต่ผู้ติดต่อไม่เหมือนกัน ระบบจะขึ้นธงสีเหลือง
หากรายการที่มีธงสีแดงและสีเหลืองได้มีการตรวจสอบแล้ว ก่อนไปที่รายการภาษีซื้อ ระบบจะให้พิมพ์คำว่า "ยืนยัน" อีกครั้ง จากนั้นกดปุ่มถัดไป
รายการภาษีซื้อ
รายการภาษีซื้อ
ระบบจะแสดงรายการภาษีซื้อที่ยังไม่ใช้ในช่วงเวลา 6 เดือน ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบรายการภาษีซื้อที่จะนำไปทำเป็นแบบภ.พ.30
หากรายการภาษีซื้อใดยังไม่ได้ลงทะเบียนใบกำกับภาษี จะไม่สามารถนำไปทำเป็นแบบภ.พ.30 ได้ ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถลงทะเบียนใบกำกับภาษีซื้อโดยระบุวันที่และเลขที่ใบกำกับภาษีที่หน้าสร้างแบบได้
และหากต้องการให้ AI ช่วยตรวจสอบรายการภาษีซื้อ กดปุ่ม ตรวจสอบ AI จะทำการตรวจสอบข้อมูล
หากพบรายการผิดปกติ ระบบจะแสดงธงแดง/เหลือง
ธงสีแดง: รายการที่ควรตรวจสอบ เช่น รายการภาษีซื้อมีวันที่ ยอดเงินและผู้ติดต่อเหมือนกัน อาจมีรายการซ้ำได้ ระบบจะขึ้นธงสีแดง
ธงสีเหลือง: รายการที่แนะนำให้ตรวจสอบ เช่น รายการภาษีซื้อมีวันที่ ยอดเงินเหมือนกันแต่ผู้ติดต่อไม่เหมือนกัน ระบบจะขึ้นธงสีเหลือง
หากรายการที่มีธงสีแดงและสีเหลืองได้มีการตรวจสอบแล้ว ก่อนไปที่หน้าแบบภ.พ.30 ระบบจะให้พิมพ์คำว่า "ยืนยัน" อีกครั้ง จากนั้นกดปุ่มถัดไป
4. ยื่นแบบฟอร์มและชำระเงิน
4. ยื่นแบบฟอร์มและชำระเงิน
กรณีต้องการยื่นแบบฟอร์ม > กดยื่นแบบฟอร์มแล้ว
เลือกวิธีการยื่นแบบฟอร์ม
ยื่นแบบกระดาษ: ใช้กรณีต้องการพิมพ์แบบยื่นภาษีเป็นแบบกระดาษ เพื่อนำไปยื่นกรมสรรพากรตามพื้นที่หรือเก็บเข้าแฟ้ม
ยื่นแบบแล้ว: ใช้กรณีงวดภาษีได้มีการยื่นแบบภาษีแล้วเรียบร้อย เพียงสร้างแบบยื่นภาษีย้อนหลังใน PEAK Tax เท่านั้น
จากนั้นกดยืนยัน
เมื่อยื่นแบบยื่นภาษีเรียบร้อยและมีการจ่ายชำระเงินค่าภาษีแล้ว กดชำระเงินแล้ว
ระบบจะ Pop-up เพื่อให้ระบุข้อมูล ดังนี้
ระบุวันที่บันทึก: วันที่ที่มีการจ่ายชำระเงินค่าภาษี
ช่องทางชำระ: ช่องทางการเงินที่ได้มีการจ่ายชำระ
กรณีค่าภาษีมีการปรับเศษทศนิยม: ระบุจำนวนเงินที่ต้องการปรับปรุง
เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว กด "ยืนยัน" เพื่อทำรายการ
กรณีจ่ายชำระค่าภาษีและได้รับใบเสร็จรับเงินการกรมสรรพากร กด "รับใบเสร็จแล้ว
ระบบจะให้เลือกการอัปโหลดใบเสร็จ
อัปโหลดใบเสร็จ: สามารถสแกน ถ่ายรูปหรือแนบไฟล์ใบเสร็จเพื่อเก็บเอกสารได้ทันที
ไม่อัปโหลดใบเสร็จ: กรณีแบบยื่นภาษีที่สร้างเป็นการสร้างแบบย้อนหลัง ไม่ต้องการอัปโหลดใบเสร็จ สามารถเลือกสถานะไม่อัปโหลดได้
จากนั้นกด ยืนยัน
- จบขั้นตอนการสร้างแบบ ภ.พ.30 ประเภทยื่นปกติ ภายในเวลากำหนด -
คู่มืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสร้างแบบ ภ.พ.30 ประเภทยื่นปกติ ภายในเวลากำหนด
Keyword : ยื่นแบบ , ภ.พ.30