Skip to main content
All Collectionsอื่น ๆ การประยุกต์การใช้งาน
การบันทึกตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย (NI033)
การบันทึกตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย (NI033)

Recording the removal of items from stock due to damage (NI033)

Updated over 8 months ago

การบันทึกตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย คืออะไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

การตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย คือ การตัดจ่ายของเสียเกินปกติที่เกิดจากกระบวนการผลิต สินค้าเสื่อมคุณภาพ สินค้ามีตำหนิสินค้าหมดสมัยนิยม สินค้าหมดอายุ และเศษซากในรอบบัญชี ให้เป็นไปตามข้อกำหนด แนวทางปฏิบัติ กรณีการทำลายของเสีย สินค้าที่เสื่อมคุณภาพ สินค้าที่มีตำหนิสินค้าที่หมดสมัยนิยม สินค้าที่หมดอายุ และเศษซาก ของทางกรมสรรพากร

การตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย จะมีแนวทางการบันทึกบัญชีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีที่กิจการต้องการใช้จัดการกับสินค้า โดยจะต้องเป็นไปตาม ข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติของทางกรมสรรพากร

กรณีใช้งานโปรแกรม PEAK แนะนำการบันทึกบัญชีได้ 3 รูปแบบตามวิธีการจัดการดังนี้

วิธีจัดการที่ 1 : กรณีนำสินค้าที่ชำรุดส่งคืนให้กับผู้ขาย (Supplier)

กรณีกิจการขายสินค้า มีนโยบายรับคืน/รับเคลม (Claim) สินค้าที่ชำรุดเสียหายจากลูกค้า โดยกิจการเองมีหนังสือสัญญาในการส่งคืน/ส่งเคลม (Claim) กับทางผู้ขาย (Supplier) ด้วย

หากสินค้าที่ชำรุดเสียหายมีเงื่อนไขตรงกับสัญญาที่ได้ทำกับผู้ขาย (Supplier) สามารถแจ้งขอเอกสารใบลดหนี้จากทางผู้ขาย (Supplier) และส่งคืนสินค้าให้กับทางผู้ขาย (Supplier) ได้

  • โดยหน้าที่ในการจัดการสินค้าชำรุดเสียหายตามข้อกำหนดและแนวทางปฏิบัติของทางสรรพากร จะตกเป็นของผู้ขาย (Supplier) แทน

  • ส่วนกิจการเอง จะต้องจัดทำใบลดหนี้ เพื่อรับคืนสินค้า หรือเปลี่ยนสินค้าให้กับลูกค้าของตนเองเช่นกัน

สามารถบันทึกรับคืนสินค้าจากลูกค้า และส่งคืนสินค้าให้กับผู้ขายได้ดังนี้

ตัวอย่าง : กิจการขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซื้อสินค้าจากผู้ผลิตมาเพื่อขาย มีการขายออกและได้ออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีให้ลูกค้าแล้ว ต่อมาลูกค้าแจ้งขอคืนสินค้าเนื่องจากสินค้าชำรุดเสียหาย

  • สินค้าที่ขาย : หม้อหุงข้าว 1 เครื่อง ราคาขาย 2,000 บาท/ราคาทุน 1,500 บาท

ตัวอย่างสต็อกสินค้าก่อนลดหนี้

เข้าเมนูสินค้า > กดเลือกรายการสินค้าที่ต้องการดูข้อมูล

เลือก "เคลื่อนไหว" > เคลื่อนไหวสต็อกสินค้า

  • กิจการซื้อสินค้าเข้ามา 5 ชิ้น ที่เอกสาร EXP-20240400007

  • ขายสินค้าออก 1 ชิ้น ที่เอกสาร RT-20240500004

ขั้นตอนที่ 1 : การออกใบลดหนี้รับคืนสินค้า และคืนเงินให้ลูกค้า

เข้าสู่เอกสารใบกำกับภาษี ตามตัวอย่างเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี > กดปุ่ม "ตัวเลือก" > เลือก "ออกใบลดหนี้"

ระบุสาเหตุของการลดหนี้ และระบุข้อมูล "รับคืนสินค้า" > ระบุรายละเอียดจำนวนสินค้าและราคาที่รับคืนให้ครบถ้วน

ระบุช่องทางการเงินของกิจการ ที่ใช้จ่ายเงินคืนให้กับลูกค้า > กด "อนุมัติใบลดหนี้"

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : หลังออกใบลดหนี้ให้ลูกค้า

กรณีกิจการไม่ได้คืนเงินให้ลูกค้า แต่เปลี่ยนเคลม (Claim) สินค้าใหม่ให้ ดูวิธีบันทึกเพิ่มเติมที่นี่

ขั้นตอนการจ่ายชำระใบลดหนี้ กดเลือก "ค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง"

  • ปรับปรุง : เลือก "หักเงินที่ต้องจ่าย"

  • ปรับปรุงด้วยบัญชี : เลือกผังบัญชีที่ต้องการปรับปรุงยอดเงินไว้ก่อน ตามตัวอย่างใช้ ผังบัญชี "999999 - บัญชีพัก" เพื่อพักยอดเงินไว้ตัดชำระกับสินค้าตัวใหม่ที่เปลี่ยนให้

  • จำนวนเงินที่ปรับปรุง : ระบุจำนวนเงินเท่ากับมูลค่าสุทธิของเอกสาร

  • หมายเหตุ : ระบุข้อมูลเพิ่มเติมได้

ปรับปรุงเอกสารตามตัวอย่างด้านล่างนี้เพื่อพักยอดจ่ายไว้ ตัดกับสินค้าที่เคลมให้ลูกค้า

บันทึกใบเสร็จรับเงิน เพื่อตัดสต็อกสินค้าชิ้นใหม่ และเพื่อเป็นหลักฐานการเคลม (Claim)

บันทึกรับชำระเงินแบบขั้นสูง > ให้ตัดชำระยอดสินค้าชิ้นใหม่ กับผังบัญชีที่ลงบันทึกไว้ในขั้นตอนการชำระเงินของใบลดหนี้

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : ระบบจะตัดสต็อกสินค้าจาก Lot ล่าสุดที่มีจำนวนสินค้าคงเหลือให้

ขั้นตอนที่ 2 : การบันทึกรับใบลดหนี้ เพื่อบันทึกคืนสินค้าให้กับคู่ค้า

  • ขั้นตอนนี้กิจการจะต้องแจ้งขอใบลดหนี้สินค้าที่ชำรุดจากคู่ค้ามาก่อน

เข้าสู่เอกสารบันทึกซื้อสินค้าที่บันทึกไว้ก่อนหน้านั้น กดปุ่มตัวเลือก > เลือก "รับใบลดหนี้"

ระบุสาเหตุของการลดหนี้ และระบุข้อมูล "คืนสินค้า" > ระบุรายละเอียดจำนวนสินค้าและราคาที่ส่งคืนผู้ขายให้ครบถ้วน

ระบุช่องทางการเงินของกิจการ ที่ผู้ขายชำระค่าสินค้าคืนให้ > กด "อนุมัติรับใบลดหนี้"

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : หลังบันทึกคืนสินค้าให้ผู้ขาย

กรณีผู้ขายไม่ได้ชำระเงินคืน แต่ส่งสินค้าใหม่มาเปลี่ยนให้ ดูวิธีบันทึกเพิ่มเติมที่นี่

ขั้นตอนรับชำระเงินใบรับลดหนี้ กดเลือก "ค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง"

  • ปรับปรุง : เลือก "หักเงินที่ต้องรับ"

  • ปรับปรุงด้วยบัญชี : เลือกผังบัญชีที่ต้องการปรับปรุงยอดเงินไว้ก่อน ตามตัวอย่างใช้ ผังบัญชี "999999 - บัญชีพัก" เพื่อพักยอดเงินไว้ตัดชำระกับสินค้าตัวใหม่ที่เปลี่ยนให้

  • จำนวนเงินที่ปรับปรุง : ระบุจำนวนเงินเท่ากับมูลค่าสุทธิของเอกสาร

  • หมายเหตุ : ระบุข้อมูลเพิ่มเติมได้

ปรับปรุงเอกสารตามตัวอย่างด้านล่างนี้เพื่อพักยอดสินค้าไว้ รอตัดกับสินค้าใหม่

เมื่อผู้ขายส่งสินค้าใหม่มาให้ สามารถบันทึกได้ที่ "บันทึกซื้อสินค้า"

บันทึกจ่ายชำระเงินแบบขั้นสูง > สำหรับสินค้าที่ได้รับเปลี่ยนคืน ให้ตัดชำระกับผังบัญชีที่ลงบันทึกไว้ในขั้นตอนการชำระเงินของรับใบลดหนี้

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : กรณีผู้ขายเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ สินค้าที่ได้รับเปลี่ยนจะเป็น Lot ใหม่

วิธีจัดการที่ 2 : กรณีนำสินค้าชำรุด ขายออกในราคาต่ำกว่าราคาต้นทุน

กรณีกิจการมีนโยบายนำสินค้าชำรุดกลับมาขายใหม่ เช่น ขายอะไหล่, ขายมือสอง กิจการมีความสามารถในการซ่อมแซมสินค้าให้กลับมาสมบูรณ์ หรือ สินค้าใกล้สิ้นอายุแต่กิจการไม่ต้องการทำหนังสือแจ้งขอทำลายสินค้า จึงยอมขายในราคาต่ำกว่าทุน

การขายในราคาต่ำกว่าต้นทุน ไม่เป็นการทำลายสินค้า แต่เป็นการโอนทรัพย์สิน โดยมี
ค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด ให้ดำเนินการดังนี้

  1. ต้องมีการตรวจสอบสภาพสินค้าตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดไว้ และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจในการพิจารณาให้เป็นสินค้าใกล้หมดอายุ หมดอายุ ไม่ได้มาตรฐาน หรือเศษซากดังกล่าว

  2. ต้องมีบุคคลร่วมสังเกตการณ์ ประกอบด้วยฝ่ายคลังสินค้าและฝ่ายบัญชี โดยลงลายมือชื่อเป็นพยานในการขาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชี และได้ขายสินค้าไปในราคาต่ำกว่าต้นทุน

หากดำเนินการดังนี้ ถือได้ว่าบริษัทฯ โอนทรัพย์สินโดยมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด โดยมีเหตุอันสมควร ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับรองอีกแต่ประการใด

สามารถบันทึกตัดสินค้าชำรุด และนำกลับมาขายใหม่ได้ดังนี้

ตัวอย่าง : กิจการเป็นร้านแว่น มีการตัดแว่นตามการสั่งทำจากลูกค้า ออกใบกำกับภาษีแล้ว เมื่อลูกค้านำไปใช้งานจริงพบว่าตัวเลนส์ไม่เข้ากับสายตา ทางร้านจึงรับคืนเลนส์เดิมมาเก็บไว้ขายให้กับลูกค้าท่านอื่นที่มีค่าสายตาเหมาะสมแทน

  • สินค้าที่ขาย : เลนส์แว่นสายตา 1 ชิ้น ราคาขาย 3,000 บาท/ราคาทุน 1,500 บาท

ตัวอย่างสต็อกสินค้าก่อนลดหนี้

เข้าเมนูสินค้า > กดเลือกรายการสินค้าที่ต้องการดูข้อมูล

เลือก "เคลื่อนไหว" > เคลื่อนไหวสต็อกสินค้า

  • กิจการซื้อสินค้าเข้ามา 4 ชิ้น ที่เอกสาร EXP-20240300010

  • ขายสินค้าออก 1 ชิ้น ที่เอกสาร RT-20240400006

เนื่องจากกิจการจะรับสินค้าที่ชำรุดคืนมาก่อนเพื่อรอขายต่อ แนะนำให้แยกสินค้านี้ออกจากสต็อกเดิม โดยสร้างผังบัญชีใหม่สำหรับบันทึกบัญชี และสร้างรหัสสินค้าใหม่ก่อนลดหนี้

ดูวิธีสร้างผังบัญชี และการผูกผังบัญชีที่สินค้าใหม่ คลิกที่นี่

1. เข้าสู่เมนูบัญชี > ผังบัญชี > กด"+ เพิ่มบัญชี" > ระบุข้อมูลผังบัญชีเป็นสินค้าคงเหลือตามตัวอย่าง สามารถตั้งชื่อผังบัญชีเป็นชื่อที่ต้องการใช้งานได้ จากนั้นกด "เพิ่มบัญชี"

  • ตามตัวอย่างจะใช้ชื่อผังบัญชี "สินค้ารอนำกลับมาขาย"

สร้างผังบัญชีที่ 2 สำหรับใช้โอนต้นทุนสินค้าที่รับคืนไปเป็นสินค้าชำรุด > ระบุข้อมูลผังบัญชีเป็นต้นทุนตามตัวอย่าง สามารถตั้งชื่อผังบัญชีเป็นชื่อที่ต้องการใช้งานได้ จากนั้นกด "เพิ่มบัญชี"

  • ตามตัวอย่างจะใช้ชื่อผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด"

2. เข้าสู่เมนูสินค้า > กด "+เพิ่มสินค้า" > ระบุชื่อและเลขที่สินค้าเป็นข้อมูลเดิมของสินค้าตัวนี้ > แนะนำให้ใส่ข้อมูลเพิ่มเติมที่เลขที่สินค้า เช่น คำว่า "รอขาย" ตามภาพ

กดปรับการเพิ่มสินค้าเป็น "ขั้นสูง" > ตั้งค่าข้อมูลการบันทึกบัญชี ระบุบัญชีซื้อเป็นผังบัญชีที่สร้างใหม่ ผังบัญชี "สินค้ารอนำกลับมาขาย" > กดบันทึกสินค้า

ตัวอย่างการตั้งชื่อ และรหัสสินค้าให้สอดคล้องกับข้อมูลเดิม

ขั้นตอนที่ 1 : การออกใบลดหนี้รับคืนสินค้า และคืนเงินให้ลูกค้า

เข้าสู่เอกสารใบกำกับภาษี ตามตัวอย่างเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี > กดปุ่ม "ตัวเลือก" > เลือก "ออกใบลดหนี้"

ระบุสาเหตุของการลดหนี้ และระบุข้อมูล "รับคืนสินค้า" > ระบุรายละเอียดจำนวนสินค้าและราคาที่รับคืนให้ครบถ้วน

  • กรณีที่ลดหนี้เฉพาะรายการ ตรงช่องลดหนี้ทุกรายการหรือไม่ ให้ระบุเป็น เฉพาะรายการ

ระบุช่องทางการเงินของกิจการ ที่ใช้จ่ายเงินคืนให้กับลูกค้า > กด "อนุมัติใบลดหนี้"

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : หลังออกใบลดหนี้ให้ลูกค้า ให้ยึดวันที่รับคืนสินค้านี้ เป็นวันที่ในการโอนสินค้าชำรุด ในขั้นตอนถัดไป

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี : จะมีการกลับรายการสินค้าสำเร็จรูป และต้นทุนขายให้

กรณีกิจการไม่ได้คืนเงินให้ลูกค้า แต่เปลี่ยนเคลม (Claim) สินค้าใหม่ให้ ดูวิธีบันทึกเพิ่มเติมที่นี่

ขั้นตอนการจ่ายชำระใบลดหนี้ กดเลือก "ค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง"

  • ปรับปรุง : เลือก "หักเงินที่ต้องจ่าย"

  • ปรับปรุงด้วยบัญชี : เลือกผังบัญชีที่ต้องการปรับปรุงยอดเงินไว้ก่อน ตามตัวอย่างใช้ ผังบัญชี "999999 - บัญชีพัก" เพื่อพักยอดเงินไว้ตัดชำระกับสินค้าตัวใหม่ที่เปลี่ยนให้

  • จำนวนเงินที่ปรับปรุง : ระบุจำนวนเงินเท่ากับมูลค่าสุทธิของเอกสาร

  • หมายเหตุ : ระบุข้อมูลเพิ่มเติมได้

ปรับปรุงเอกสารตามตัวอย่างด้านล่างนี้เพื่อพักยอดจ่ายไว้ ตัดกับสินค้าที่เคลมให้ลูกค้า

บันทึกใบเสร็จรับเงิน เพื่อตัดสต็อกสินค้าชิ้นใหม่ และเพื่อเป็นหลักฐานการเคลม (Claim)

  • เลือกรหัสสินค้าเป็นรหัสปกติที่ขายได้เลย

บันทึกรับชำระเงินแบบขั้นสูง > ให้ตัดชำระยอดสินค้าชิ้นใหม่ กับผังบัญชีที่พักยอดไว้ก่อนหน้า

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : ระบบจะตัดสต็อกสินค้าจาก Lot ล่าสุดให้

ขั้นตอนที่ 2 : การโอนสินค้าที่รับคืน เป็นสินค้าชำรุดเพื่อรอนำกลับมาขายใหม่

ขั้นตอนที่ 2.1 : บันทึกใบเสร็จรับเงินเพื่อโอนสินค้าชำรุด

การโอนให้สร้างเอกสารใบเสร็จรับเงินจากขั้นตอนรับคืนสินค้าก่อนหน้า มีการรับคืนสินค้าวันที่ 05/04/2024 ให้ยึดวันที่นี้เป็นวันที่โอนสินค้า เพื่อให้ระบบตัดสต็อกสินค้าจาก Lot เดียวกัน ต้นทุนที่โอนจะได้เป็นยอดเดียวกันกับที่รับคืน

  • การบันทึกเอกสารนี้จะเป็นการประยุกต์ใช้ ให้ทำการสร้างผู้ติดต่อสำหรับบันทึกสินทรัพย์ชำรุดก่อนบันทึกเอกสาร

ดูวิธีสร้างผู้ติดต่อสำหรับบันทึกสินค้าชำรุด คลิกที่นี่

เลือกเมนูผู้ติดต่อ > กด"+ เพิ่มผู้ติดต่อใหม่"

ระบุข้อมูลผู้ติดต่อตามตัวอย่างนี้ > กด "เพิ่ม" เพื่อสร้างผู้ติดต่อ

การสร้างเอกสารใบเสร็จรับเงิน ระบุข้อมูลบนเอกสารดังนี้

  1. ระบุผู้ติดต่อเป็น ผู้ติดต่อสำหรับตัดสินค้าชำรุด

  2. ระบุวันที่ออกเอกสารเป็นวันที่รับคืนสินค้า

  3. ระบุรหัสสินค้าที่ต้องการโอนเป็นสินค้าชำรุด

  4. ระบุผังบัญชี สำหรับโอนสินค้าที่สร้างเตรียมไว้ เพื่อเป็น Note หน้าเอกสาร

  5. ระบุจำนวนสินค้า > ใส่ราคาเป็น 0 และภาษี เลือกเป็นไม่มี

เมื่อข้อมูลครบถ้วนแล้ว กด "อนุมัติใบเสร็จรับเงิน"

หลังอนุมัติใบเสร็จแล้ว > กดเข้าดูสมุดบัญชี เพื่อแก้ไขข้อมูลผังบัญชี

เมื่อเข้าสู่หน้าบัญชีรายวันแล้ว > กดแก้ไข

กดกากบาท(x) ลบแถวรายการที่เดบิต-เครดิตเป็น 0 ออก > จากนั้นเปลี่ยนผังบัญชีจาก "ต้นทุนขาย" เป็น "โอนเป็นสินค้าชำรุด" > กด"บันทึก" การแก้ไข

ผลกระทบของการประยุกต์แก้ไขสมุดบัญชีรายวัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

สาเหตุที่ต้องแก้ไขบัญชีรายวันจาก "ต้นทุนขาย" เป็น "โอนเป็นสินค้าชำรุด"

  • เนื่องจากสินค้าตัวนี้ยังไม่ได้ขายออกอยู่ในช่วงกำลังรอนำกลับมาขาย เช่น รอซ่อมแซมเสร็จ รอนำมาขายมือสอง จึงยังไม่สามารถรับรู้ต้นทุนขายได้ จึงต้องปรับปรุงไว้ในบัญชีหมวดสินค้าคงเหลือก่อน

  • โดยคู่มือนี้ แนะนำให้สร้างผังบัญชีสินค้าคงเหลือ ชื่อ "โอนเป็นสินค้าชำรุด" สำหรับใช้แยกยอดของสินค้าตัวนี้ ออกจากสินค้าปกติที่จะอยู่ในผังบัญชี "สินค้าสำเร็จรูป"

ผลกระทบที่ 1 : กรณีพิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือ สินค้าตัวนี้จะไม่มียอดในบัญชีต้นทุนขาย ยอดจะขาดไปเท่ากับยอดที่ปรับปรุง เนื่องจากถูกปรับปรุงเข้าผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด" แทน

ผลกระทบที่ 2 : กิจการจะไม่สามารถกดคำนวณต้นทุนขายสินค้านี้ใหม่ได้ เนื่องจาการคำนวณต้นทุนขายใหม่ ระบบจะบันทึกต้นทุนขายลงในผังบัญชีต้นทุนขายที่ผูกกับสินค้านั้นๆ ทำให้การปรับปรุงรายการที่ทำไว้ถูกยกเลิก

ตัวอย่างสมุดบัญชีรายวันหลังแก้ไข

  • ยอดต้นทุน ผังบัญชี "โอนสินค้าชำรุด" ให้ใช้ระบุเป็นราคาทุนของสินค้า "รอนำกลับมาขาย"

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : หลังบันทึกตัดสินค้าชำรุดแล้ว จะมีการตัดสต็อกและต้นทุนใน Lot เดียวกัน

ขั้นตอนที่ 2.2 : บันทึกซื้อสินค้าเพื่อรับสต็อก รหัสสินค้าชำรุดรอนำกลับมาขาย

เมื่อสินค้าชำรุดสามารถนำกลับมาขายได้แล้ว สามารถบันทึกรับสต็อกของสินค้าที่เคยโอนเป็นสินค้าชำรุดกลับมารอขายได้โดยการบันทึกซื้อสินค้า

ขั้นตอนนี้แนะนำให้สร้างรหัสสินค้าประเภทบริการ เป็นรหัสหลอก(Dummy) สำหรับรองรับการปรับปรุงผังบัญชี

การสร้างรหัสสินค้าประเภทบริการ สำหรับใช้ปรับปรุงบัญชี สามารถดูวิธีสร้างเพิ่มเติมได้ที่นี่

เข้าเมนูสินค้า > เลือกสินค้า/บริการ > กด"+ เพิ่มสินค้า/บริการ"

เลือกประเภท "บริการ" > ระบุชื่อ "ปรับปรุงสินค้าชำรุด" > กดบันทึก เพื่อสร้าง

  • วิธีนี้จะไม่กระทบกับสต็อก และไม่กระทบการบันทึกบัญชีสต็อก เนื่องจากรหัสบริการของระบบ PEAK จะไม่มีการคำนวณสต็อก

กดสร้างบันทึกซื้อสินค้า ระบุข้อมูลดังนี้

  1. ระบุผู้ติดต่อเป็น ผู้ติดต่อสำหรับตัดสินค้าชำรุด

  2. ระบุวันที่ออกเอกสารเป็นวันที่เดียวกับใบเสร็จรับเงินโอนสินค้า

  3. ระบุรหัสสินค้าเป็นรหัสสินค้า สำหรับ "รอนำกลับมาขาย" ที่เตรียมไว้

  4. ระบุจำนวนสินค้า > ใส่ราคาตามยอดผังบัญชี"โอนสินค้าชำรุด" ที่ระบบคำนวณให้ตอนบันทึกโอนสินค้า และภาษี เลือกเป็นไม่มี

เพิ่มรายการสำหรับปรับปรุงสินค้าชำรุด ดังนี้

  1. กดปุ่ม "เพิ่มรายการใหม่" เพื่อเพิ่มบรรทัดสำหรับบันทึกรายการ

  2. ระบุรหัสบริการที่เตรียมไว้ สำหรับปรับปรุงสินค้าชำรุด

  3. เลือกผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด" เพื่อล้างยอดผังบัญชีที่บันทึกไว้ก่อนหน้า

  4. ระบุจำนวนเงินเป็น ยอดติดลบ เท่ากับยอดของสินค้า

  5. ยอดสุทธิรวมแสดงเป็น 0 บาท สามารถกด "อนุมัติบันทึกซื้อสินค้า" ได้

หลังอนุมัติบันทึกซื้อสินค้าแล้ว > กดเข้าดูสมุดบัญชี เพื่อแก้ไขข้อมูลผังบัญชี

เมื่อเข้าสู่หน้าบัญชีรายวันแล้ว > กดแก้ไข

กดเลือกผังบัญชีย่อยของผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด" ใหม่ > เลือกเป็นรหัสสินค้าเดิมของสินค้าที่นำกลับมาขาย เพื่อล้างยอดบัญชีสินค้าชำรุดที่เคยปรับปรุงไว้ออกจากสินค้าเดิม

ผลกระทบของการประยุกต์แก้ไขสมุดบัญชีรายวัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

สาเหตุที่ต้องแก้ไขบัญชีรายวันโดยบันทึกเป็นรหัสบริการไว้ก่อน

  1. เนื่องจากการบันทึกซื้อสินค้า ไม่สามารถระบุยอดเงินเป็นยอดติดลบได้ จึงต้องบันทึกลงรหัสบริการ

  2. หากบันทึกรายการปรับปรุงลงที่รหัสสินค้า การบันทึกจะต้องใส่จำนวนอย่างน้อย 1 ชิ้น จะทำให้มีสินค้าที่รับกลับมาขายเกินจากความจริง 1 ชิ้น จึงต้องบันทึกลงรหัสบริการก่อนแล้วค่อยปรับปรุงบัญชีภายหลัง เพื่อไม่ให้กระทบกับสต็อกสินค้า

  3. การบันทึกผังบัญชี หากเป็นบัญชีที่สร้างด้วยตนเองระบบจะไม่ให้ระบุผังบัญชีย่อย จึงต้องสร้างรหัสบริการมารับไว้ก่อน เพื่อให้สามารถระบุผังบัญชีย่อยเป็นสินค้าในภายหลังได้

ผลกระทบที่ 1 : กรณีพิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือ สินค้าตัวเดิมจะไม่มียอดในบัญชีต้นทุนขาย ยอดจะขาดไปเท่ากับยอดที่ปรับปรุง เนื่องจากถูกปรับปรุงเข้าผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด" แทน แต่ยอดทางบัญชีของผัง "โอนเป็นสินค้าชำรุด" จะถูกล้างออกจากรหัสสินค้าเดิมโดยสมบูรณ์

  • ส่วนต้นทุนจะไปบันทึกที่สินค้าตัวใหม่ หลังจากขายสินค้าได้แล้วแทน

ผลกระทบที่ 2 : กิจการจะไม่สามารถกดคำนวณต้นทุนขายสินค้าตัวเดิมนี้ใหม่ได้ เนื่องจากการคำนวณต้นทุนขายใหม่ ระบบจะบันทึกต้นทุนขายลงในผังบัญชีต้นทุนขายที่ผูกกับสินค้านั้นๆ ทำให้การปรับปรุงรายการที่ทำไว้ถูกยกเลิก

ตัวอย่างสมุดบัญชีรายวันหลังแก้ไข

ตัวอย่างบัญชีแยกประเภท ผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด" เมื่อโอนสินค้าครบจำนวนยอดจะล้างเป็น 0

ตัวอย่างงบทดลองของผังบัญชี "โอนเป็นสินค้าชำรุด" จะเห็นได้ว่ามีการล้างยอดสินค้าที่ชำรุดออกจากผังบัญชี และล้างออกจากรหัสสินค้าตัวเดิมเป็น 0 แล้ว

ตัวอย่างงบทดลอง สินค้า"รอนำกลับมาขาย" จะมียอดคงเหลือแยกออกมาจากสินค้าปกติที่อยู่ในบัญชี "สินค้าสำเร็จรูป"

ตัวอย่างสต็อก ของสินค้า"รอนำกลับมาขาย" หลังบันทึกซื้อ (บันทึกรับโอนสินค้า)

ขั้นตอนที่ 3 : บันทึกขายสินค้าชำรุด

หากสินค้าชำรุดที่รับคืนไว้พร้อมขายแล้ว เช่น ขายมือสอง, ซ่อมแซมแล้วส่งคืนให้กับลูกค้าคนเดิม สามารถบันทึกรายการเป็นใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จรับเงิน เพื่อตัดขายสินค้าได้ตามปกติ

  • ตัวอย่างนี้จะเป็นการขายโดยออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี

เลือกสินค้ารหัส "รอขาย" มาทำรายการ > รับชำระเงิน และ "อนุมัติใบเสร็จรับเงิน"ได้

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : หลังตัดขายสินค้าชำรุด

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี : ระบบจะเครดิตบัญชีสินค้ารอนำกลับมาขายออก และบันทึกต้นทุนขาย

ตัวอย่างรายงานสินค้าคงเหลือของสินค้าที่นำกลับมาขายใหม่

  • สินค้าคงเหลือรหัสเดิมชิ้นที่ชำรุดจะไม่มีต้นทุนขาย เนื่องจากตัดเป็นรายการชำรุดแล้ว ต้นทุนจะเกิดอีกครั้งเมื่อขายสินค้ารหัส "รอขาย" ได้ โดยเวลานับสต็อกจะต้องรวมต้นทุนของสินค้ารอขายเข้าไปในต้นทุนของสินค้าปกติด้วย

วิธีจัดการที่ 3 : จัดทำหนังสือแจ้งขอทำลายสินค้าเหล่านี้ต่อกรมสรรพากร

กรณีกิจการมีสินค้าชำรุด หมดอายุ ไม่สามารถตัดขายได้แบบต่ำกว่าทุนได้ หรือมีนโยบายต้องทำลายทิ้งเท่านั้น

การทำลายสินค้า จะต้องทำหนังสือแจ้งขอทำลายสินค้าเหล่านี้ต่อกรมสรรพากร พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้สอบบัญชีเข้าสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งสรรพากรพื้นที่ หรือสรรพากรจังหวัด หรือสรรพากรจังหวัด (สาขา) อาจส่งเจ้าหน้าที่ไปดูการทำลายด้วยก็ได้ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี

การบันทึกสินค้ารอทำลายบน PEAK แนะนำให้สร้างผังบัญชีใหม่สำหรับบันทึกบัญชีสินค้ารอทำลายไว้ก่อน

วิธีสร้างผังบัญชีสินค้ารอทำลาย คลิกที่นี่

1. เข้าสู่เมนูบัญชี > ผังบัญชี > กด"+ เพิ่มบัญชี" > ระบุข้อมูลผังบัญชีเป็นสินค้าคงเหลือตามตัวอย่าง สามารถตั้งชื่อผังบัญชีเป็นชื่อที่ต้องการใช้งานได้ จากนั้นกด "เพิ่มบัญชี"

  • ตามตัวอย่างจะใช้ชื่อผังบัญชี "สินค้ารอทำลาย"

หากมีการรับคืนสินค้าจากลูกค้ามาก่อนแล้วเก็บไว้รอทำลาย คลิกที่นี่

ตัวอย่าง : กิจการแปรรูปอาหารกระป๋อง ขายส่งให้กับร้านค้าทั่วไป มีสินค้าใกล้หมดอายุค้างคลัง หรือมีสินค้าชำรุดที่รับคืนจากร้านค้าด้วย เช่น กระป๋องบุบ/ทะลุเสียหายระหว่างขนส่ง จึงต้องตัดสต็อกหรือรับคืนสินค้าเป็นสินค้ารอทำลาย

  • สินค้าที่ขาย : เงาะกระป๋อง 1 กระป๋อง ราคาขาย 20 บาท/ราคาทุน 15 บาท

ตัวอย่างสต็อกสินค้าก่อนลดหนี้

เข้าเมนูสินค้า > กดเลือกรายการสินค้าที่ต้องการดูข้อมูล

เลือก "เคลื่อนไหว" > เคลื่อนไหวสต็อกสินค้า

  • กิจการบันทึกซื้อสินค้าเข้ามา 10 กระป๋อง ที่เอกสาร EXP-20240400008

  • ขายสินค้าออก 5 กระป๋อง ที่เอกสาร RT-20240400007

ขั้นตอนที่ 1 : การออกใบลดหนี้รับคืนสินค้า และคืนเงินให้ลูกค้า

เข้าสู่เอกสารใบกำกับภาษี ตามตัวอย่างเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี > กดปุ่ม "ตัวเลือก" > เลือก "ออกใบลดหนี้"

ระบุสาเหตุของการลดหนี้ และระบุข้อมูล "รับคืนสินค้า" > ระบุรายละเอียดจำนวนสินค้าและราคาที่รับคืนให้ครบถ้วน

ระบุช่องทางการเงินของกิจการ ที่ใช้จ่ายเงินคืนให้กับลูกค้า > กด "อนุมัติใบลดหนี้"

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : หลังออกใบลดหนี้ให้ลูกค้า

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี : จะมีการกลับรายการสินค้าสำเร็จรูป และต้นทุนขายให้

กรณีกิจการไม่ได้คืนเงินให้ลูกค้า แต่เปลี่ยนเคลม (Claim) สินค้าใหม่ให้ ดูวิธีบันทึกเพิ่มเติมที่นี่

ขั้นตอนการจ่ายชำระใบลดหนี้ กดเลือก "ค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง"

  • ปรับปรุง : เลือก "หักเงินที่ต้องจ่าย"

  • ปรับปรุงด้วยบัญชี : เลือกผังบัญชีที่ต้องการปรับปรุงยอดเงินไว้ก่อน ตามตัวอย่างใช้ ผังบัญชี "999999 - บัญชีพัก" เพื่อพักยอดเงินไว้ตัดชำระกับสินค้าตัวใหม่ที่เปลี่ยนให้

  • จำนวนเงินที่ปรับปรุง : ระบุจำนวนเงินเท่ากับมูลค่าสุทธิของเอกสาร

  • หมายเหตุ : ระบุข้อมูลเพิ่มเติมได้

ปรับปรุงเอกสารตามตัวอย่างด้านล่างนี้เพื่อพักยอดจ่ายไว้ ตัดกับสินค้าที่เคลมให้ลูกค้า

บันทึกใบเสร็จรับเงิน เพื่อตัดสต็อกสินค้าชิ้นใหม่ และเพื่อเป็นหลักฐานการเคลม(Claim)

  • เลือกรหัสสินค้าเป็นรหัสปกติที่ขายได้เลย

บันทึกรับชำระเงินแบบขั้นสูง > ให้ตัดชำระยอดสินค้าชิ้นใหม่ กับผังบัญชีที่พักยอดไว้ก่อนหน้า

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : ระบบจะตัดสต็อกสินค้าจาก Lot ล่าสุดให้

การตัดสต็อกเป็นสินค้ารอทำลาย

ตัวอย่าง : กิจการแปรรูปอาหารกระป๋อง ขายส่งให้กับร้านค้าทั่วไป มีสินค้าใกล้หมดอายุค้างคลัง และมีสินค้าชำรุดที่รับคืนจากร้านค้าด้วย เช่น กระป๋องบุบ/ทะลุเสียหายระหว่างขนส่ง จึงต้องตัดสต็อกเป็นสินค้ารอทำลาย

โดยกิจการมีการนับสต็อกทุกสิ้นเดือน ในรอบนี้นับสต็อกวันที่ 30/05/2024 มีรายการสินค้าต้องทำลายดังนี้

  • เงาะกระป๋อง จำนวน 500 กระป๋อง ต้นทุนกระป๋องละ 15 บาท

  • ลำไยกระป๋อง จำนวน 1000 กระป๋อง ต้นทุนกระป๋องละ 10 บาท

โดยจะมีการนัดผู้สอบบัญชี และสรรพากรเข้าสังเกตการณ์ ในวันที่ 15/06/2024

ขั้นตอนที่ 1 : บันทึกใบเสร็จรับเงินเพื่อตัดสต็อกสินค้ารอทำลาย

การตัดสต็อกให้สร้างเอกสารใบเสร็จโดยระบุวันที่ออกเอกสารเป็นวันที่มีการตัดสต็อกสินค้า หรือวันที่นับสต็อกและคัดแยกสินค้าไว้รอทำลาย ตามตัวอย่างนี้คือวันที่ 30/05/2024

  • การบันทึกเอกสารนี้จะเป็นการประยุกต์ใช้ ให้ทำการสร้างผู้ติดต่อสำหรับบันทึกสินค้าชำรุดก่อนบันทึกเอกสาร

ดูวิธีสร้างผู้ติดต่อสำหรับบันทึกสินค้าชำรุด คลิกที่นี่

เลือกเมนูผู้ติดต่อ > กด"+ เพิ่มผู้ติดต่อใหม่"

ระบุข้อมูลผู้ติดต่อตามตัวอย่างนี้ > กด "เพิ่ม" เพื่อสร้างผู้ติดต่อ

การสร้างเอกสารใบเสร็จรับเงิน ระบุข้อมูลบนเอกสารดังนี้

  1. ระบุผู้ติดต่อเป็น ผู้ติดต่อสำหรับตัดสินค้าชำรุด

  2. ระบุวันที่ออกเอกสาร เป็นวันที่ตัดสต็อกสินค้า

  3. ระบุรหัสสินค้าที่ต้องการตัดเป็นสินค้ารอทำลาย

  4. ระบุผังบัญชี สำหรับตัดสินค้ารอทำลาย ที่สร้างเตรียมไว้ เพื่อเป็น Note หน้าเอกสาร

  5. ระบุจำนวนสินค้า > ใส่ราคาเป็น 0 และภาษี เลือกเป็นไม่มี

เมื่อข้อมูลครบถ้วนแล้ว กด "อนุมัติใบเสร็จรับเงิน"

หลังอนุมัติใบเสร็จแล้ว > กดเข้าดูสมุดบัญชี เพื่อแก้ไขข้อมูลผังบัญชี

เมื่อเข้าสู่หน้าบัญชีรายวันแล้ว > กดแก้ไข

กดกากบาท(x) ลบแถวรายการที่เดบิต-เครดิตเป็น 0 ออก > จากนั้นเปลี่ยนผังบัญชีจาก "ต้นทุนขาย" เป็น "สินค้ารอทำลาย" โดยต้องเปลี่ยนที่สินค้าทุกตัว > กด"บันทึก" การแก้ไข

ผลกระทบของการประยุกต์แก้ไขสมุดบัญชีรายวัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

สาเหตุที่ต้องแก้ไขบัญชีรายวันจาก "ต้นทุนขาย" เป็น "สินค้ารอทำลาย"

  • เนื่องจากสินค้าตัวนี้ยังไม่ได้ถูกทำลาย อยู่ในช่วงตัดสต็อกและแจ้งเรื่องกับทางสรรพากร และนัดเชิญผู้เข้าสังเกตุการณ์ ดังนั้นยังไม่สามารถรับรู้ต้นทุนขายได้ จึงต้องปรับปรุงไว้ในบัญชีหมวดสินค้าคงเหลือก่อน

  • โดยคู่มือนี้ แนะนำให้สร้างผังบัญชีสินค้าคงเหลือ ชื่อ "สินค้ารอทำลาย" สำหรับใช้แยกยอดของสินค้าตัวนี้ ออกจากสินค้าปกติที่จะอยู่ในผังบัญชี "สินค้าสำเร็จรูป"

ผลกระทบที่ 1 : กรณีพิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือ สินค้าตัวนี้จะไม่มียอดในบัญชีต้นทุนขาย ยอดจะขาดไปเท่ากับยอดที่ปรับปรุง เนื่องจากถูกปรับปรุงเข้าผังบัญชี "สินค้ารอทำลาย" แทน

ผลกระทบที่ 2 : กิจการจะไม่สามารถกดคำนวณต้นทุนขายสินค้านี้ใหม่ได้ เนื่องจากการคำนวณต้นทุนขายใหม่ ระบบจะบันทึกต้นทุนขายลงในผังบัญชีต้นทุนขายที่ผูกกับสินค้านั้นๆ ทำให้การปรับปรุงรายการรอทำลายที่ทำไว้ถูกยกเลิก

ตัวอย่างสมุดบัญชีรายวันหลังแก้ไข

  • ยอดต้นทุน ผังบัญชี "สินค้ารอทำลาย" จะใช้ระบุเป็นราคาทุนของสินค้าหลังทำลายสินค้าแล้ว

ตัวอย่างสต็อกสินค้า : ระบบจะตัดสต็อกสินค้ารอทำลายออกให้จาก Lot ล่าสุดที่สินค้ากำลังขายอยู่ และจะใช้ต้นทุนของ Lot นี้สำหรับบันทึกบัญชีด้วย

ขั้นตอนที่ 2.2 : บันทึกล้างสินค้ารอทำลาย โดยใช้สมุดบัญชีรายวัน

เมื่อมีการทำลายสินค้าแล้ว สามารถกลับรายการสินค้ารอทำลายเป็นต้นทุนขายได้ดังนี้

เข้าสู่ใบเสร็จรับเงิน ที่บันทึกตัดสต็อกสินค้าไว้ก่อนหน้า > กดเข้าดูสมุดบัญชี เพื่อแก้ไขข้อมูลผังบัญชี

เมื่อเข้าสู่หน้าบัญชีรายวันแล้ว > กดคัดลอก

หลังกดคัดลอก ระบบจะนำเข้าสู่หน้าสร้างสมุดบัญชีรายวัน โดยมีข้อมูลของเอกสารเดิมบันทึกรอไว้ให้ ให้ทำการแก้ไขดังนี้

  1. ระบุวันที่บันทึกรายการ เป็นวันที่ทำลายสินค้า : ตามตัวอย่างนี้เป็นวันที่ 15/06/2024

  2. ที่รายการผังบัญชี "สินค้ารอทำลาย" ให้ปรับยอดรายการจากเดิมที่อยู่ฝั่งเดบิต > ไประบุที่ฝั่งเครดิตแทน โดยใช้ยอดเดียวกันกับที่คัดลอกมาจากเอกสารเดิม

เมื่อปรับผังบัญชีสินค้ารอทำลายแล้ว ให้ปรับผังบัญชีสินค้าสำเร็จรูป > เป็นผังบัญชีต้นทุนขาย

  • โดยให้ระบุบัญชีย่อย เป็นรหัสสินค้า และปรับยอดจากเดิมในฝั่งเครดิต > เป็นเดบิต

เมื่อปรับข้อมูลผังบัญชีครบทุกคู่สินค้าแล้ว ให้กดบันทึกสมุดบัญชีรายวันได้

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี หลังแก้ไข

ผลกระทบของการประยุกต์แก้ไขสมุดบัญชีรายวัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

สาเหตุที่ต้องบันทึกสมุดบัญชีรายวันโดยการคัดลอกจากเอกสารเดิม

  1. เพื่อให้บันทึกยอดต้นทุนได้ถูกต้อง โดยใช้ยอดจากเอกสารเดิมได้เลย ไม่ต้องคำนวณใหม่

  2. เนื่องจากผังบัญชีที่ใช้บันทึกรายการเป็นผังบัญชีที่สร้างใหม่ หากบันทึกที่สมุดบัญชีรายวันโดยตรง ระบบจะไม่อนุญาตให้ระบุผังบัญชีย่อยเป็นรหัสสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถล้างยอดบัญชีออกจากสินค้าที่ทำลายได้ จึงต้องคัดลอกจากสมุดบัญชีที่มีการใส่ข้อมูลบัญชีย่อยไว้ก่อนแล้ว

ผลกระทบที่ 1 : กรณีพิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือ สินค้าที่ทำลายและกลับรายการเป็นต้นทุนขายแล้ว จะมีการแสดงต้นทุนขายบนรายงานสินค้าคงเหลือให้ด้วย

ผลกระทบที่ 2 : กิจการจะไม่สามารถกดคำนวณต้นทุนขายสินค้านี้ใหม่ได้ เนื่องจากการคำนวณต้นทุนขายใหม่ ระบบจะบันทึกต้นทุนขายลงในผังบัญชีต้นทุนขายที่ผูกกับสินค้านั้นๆ ทำให้การปรับปรุงรายการรอทำลายที่ทำไว้ถูกยกเลิก

ตัวอย่างบัญชีแยกประเภท ผังบัญชี "สินค้ารอทำลาย" เมื่อเมื่อบันทึกทำลายสินค้าครบจำนวนยอดจะล้างเป็น 0

ตัวอย่างงบทดลองของผังบัญชีสินค้ารอทำลาย หลังทำงานสินค้าแล้ว ระบบล้างยอดที่ผังบัญชีและสินค้าทั้งหมด

ตัวอย่างรายงานสินค้าคงเหลือ ต้นทุนขายสินค้าจะเท่ากันทั้งฝั่งสินค้า และฝั่งบัญชี

ตัวอย่างสต็อก ของสินค้ารอทำลาย เราตัดสต็อกตั้งแต่ขั้นตอนบันทึกตัดสต็อกสินค้ารอทำลาย ดังนั้นตอนบันทึกบัญชีรายวันเพื่อล้างสินค้าที่ทำลายแล้ว และไม่ให้สินค้ามีความเคลื่อนไหว เป็นการปรับยอดทางบัญชีเท่านั้น

- จบวิธีการบันทึกการบันทึกตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย -

คู่มืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกการบันทึกตัดสินค้าเพราะชำรุดเสียหาย

Did this answer your question?