Skip to main content
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ PEAK x Shopee (PS002)

FAQ PEAK x Shopee (PS002)

Pom Atitaya avatar
Written by Pom Atitaya
Updated over 6 months ago

Q1 : หากมีการเชื่อมต่อกับ Shopee แล้ว ต้องการให้ข้อมูลของคำสั่งซื้อก่อนการเชื่อมต่อมาสร้างเอกสารใน PEAK ด้วยต้องทำอย่างไร

Answer: สามารถใช้ฟังก์ชันกดดึงข้อมูลตามคำสั่งซื้อได้ หากต้องการนำเข้าข้อมูลคำสั่งซื้อหลายรายการสามารถใช้ฟังก์ชัน Import Shopee Platform ได้

Q2 : ตั้งค่าการบันทึกบัญชีรายได้จากคำสั่งซื้อ ถ้าจะบันทึกรายได้เฉยๆ (ไม่เลือกตัดสต๊อกใน PEAK) สามารถเลือกผังบัญชีอะไรได้บ้าง

Answer: สามารถเลือกผังบัญชีได้ ดังนี้

  • 4101xx - รายได้จากการขายสินค้า

  • 4102xx - รายได้จากการให้บริการ

  • 4104xx - รายได้ค่าก่อสร้าง

  • 420xxx - รายได้อื่น

Q3 : หากในโปรแกรม PEAK มีเลขที่สินค้า หรือ เลข Shopee SKU ไม่ตรงกันกับ เลข SKU ใน Shopee จะเป็นอย่างไร

Answer: ระบบจะสร้างเอกสารโดยที่ไม่ตัดสต๊อกสินค้าให้ แต่จะยังบันทึกรายได้จากคำสั่งซื้อให้ตามการตั้งค่าที่เลือก หากต้องการตรวจสอบรายการว่าคำสั่งซื้อใดบ้างที่ถูกบันทึกแบบไม่ตัดสต็อก สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

  1. ค้นหาใบเสร็จรับเงินจาก Tag "Shopee" และ "ชื่อร้านค้า" เพราะเอกสารที่ส่งจาก API จะมีการติด Tag เป็นชื่อแพลตฟอร์มและชื่อร้านค้าให้ ตัวอย่างการค้นหาเอกสารตามแท็ก (Tag)

  2. สามารถ Export ข้อมูลจาก PEAK เป็นไฟล์ Excel และใช้เมนู Filter ของ Excel ค้นหาค่า "ว่าง" ในช่องข้อมูล "เลขที่สินค้า" เพื่อดูว่ารายการใบเสร็จใดบ้างที่ไม่ตัดสต็อกสินค้า

Q4 : หากในโปรแกรม PEAK มีเลขที่สินค้า หรือ เลข Shopee SKU ไม่ตรงกันกับ เลข SKU ใน Shopee แต่ต้องการทำให้เลขตรงกัน สามารถทำอย่างไร

Answer: มีขั้นตอนการทำรายการ ดังนี้

  1. ไปในหน้าตั้งค่าสินค้าใน Shopee

  2. ขึ้นอยู่กับว่าสินค้าที่สร้างนั้นเป็นแบบมีตัวเลือกหรือไม่ (แบบมีตัวเลือก หมายความว่าเป็นสินค้าชนิดเดียวกัน แต่มีหลายตัวเลือก เช่น หลายสี หลายขนาด เป็นต้น)

    - ถ้าสินค้าเป็นแบบมีตัวเลือก : ใส่รหัสตรง “เลข SKU”

    image.png

    - ถ้าสินค้าเป็นแบบไม่มีตัวเลือก : ใส่รหัสตรง Parent SKU

    image.png
  3. ใส่รหัสสินค้าใน PEAK ให้ตรงกันกับที่ใส่ใน Shopee (ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าตอนตั้งค่าเลือกให้เชื่อมต่อกับเลขอะไร ระหว่าง “เลขที่สินค้า” หรือ “เลข Shopee SKU” หากเลือกเลขไหนให้ไปใส่เลขตรงนั้นให้ตรง) เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นคำสั่งซื้อที่มาจาก Shopee ก็จะส่งมาตัดสต๊อกสินค้าได้ถูกต้องตามที่ set ไว้

Q5 : ความแตกต่างระหว่างการเลือกเชื่อมต่อกับ “เลขที่สินค้า” และ “เลข Shopee SKU”

Answer:

  • เลขที่สินค้า เหมาะสำหรับกิจการที่ต้องการให้ Product Code ใน PEAK ตรงกันกับ Shopee SKU เมื่อออกเอกสารใน PEAK จะเห็นเป็นเลขที่สินค้าซึ่งตรงกันกับใน Shopee

    • ข้อจำกัด : เลขที่สินค้าใน PEAK ใส่ได้ 50 ตัว แต่ใน Shopee ใส่ได้ 100 ตัว ซึ่งถ้า SKU เกินกว่า 50 ตัวอักษรจะไม่เหมาะกับการใช้เลขที่สินค้า

  • เลข Shopee SKU เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีเลขรหัส SKU เกินกว่า 50 ตัว และธุรกิจที่มีการขายสินค้ามากกว่า 1 Platform แล้วมีการตั้งเลข SKU ของแต่ละ platform ไม่เหมือนกัน แต่อยากให้ตัดสต็อกตัวเดียวกันใน PEAK เช่น ขายปากกาใน Platform A มีการ set เลข SKU ไว้เป็น 001 และขายใน Platform B มีการ set เลข SKU ไว้เป็น AAA แต่อยากให้ตัดสต็อกใน PEAK ตัวเดียวกัน เพราะไม่ว่าในแต่ละ Platform จะเลขที่ใดก็ตามแต่ใน PEAK ถือว่าเป็นปากกาเหมือนกัน เป็นต้น

  • หากเลือกเชื่อมต่อกับ เลข Shopee SKU แล้วควรเปิดการใช้งานรหัส Shopee SKU ด้วย พร้อมทั้งกำหนดรหัส Shopee SKU ให้ตรงกันกับใน Shopee (ตามคำถามที่ 4) หากไม่เปิดการใช้งานแล้วระบบจะบันทึกลงผังบัญชีที่เลือกไว้ตอนตั้งค่า โดยไม่ตัดสต็อกและไม่บันทึกต้นทุนขายให้ เบื้องต้นหากผู้ใช้งานเลือกเชื่อมต่อกับ Shopee SKU แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน ระบบก็จะมีแจ้งเตือน ดังรูป

    image.png

Q6 : รายได้ค่าขนส่ง เลือกผังบัญชีอะไรได้บ้าง

Answer: สามารถเลือกผังบัญชีได้ ดังนี้

  • 4101xx - รายได้จากการขายสินค้า (เป็นเคสที่หาก User อยาก Group ให้อยู่ในรายได้หลัก)

  • 4102xx - รายได้จากการให้บริการ

  • 42xxxx - รายได้อื่น

Q7 : อัตราภาษีของรายได้ค่าขนส่ง รู้ได้อย่างไรว่าควรเลือก “ไม่มี VAT” หรือ “มี VAT 7%”

Answer: ขึ้นอยู่กับตอนจดทะเบียนกิจการว่าให้กิจการประกอบการขนส่งเป็นปกติธุระหรือไม่ (หมายถึง มีการขายสินค้าพร้อมกับขนส่งสินค้าให้ด้วยตัวเองทุกคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้น เช่น การขายเฟอร์นิเจอร์ แล้วขนส่งสินค้าให้ลูกค้าด้วยตนเอง ไม่ได้ใช้ Service provider เช่น Kerry, Flash)

  • หากมีการประกอบการขนส่ง ส่วนของค่าขนส่งจะไม่มี VAT แต่หากไม่ใช่แล้วค่าขนส่งจะต้องคิด VAT ด้วย (อ้างอิงจาก ข้อหารือของสรรพากรเลขที่ กค 0706/8419)

Q8 : ส่วนลด สามารถเลือกผังบัญชีอะไรได้บ้าง

Answer: สามารถเลือกผังบัญชีได้ ดังนี้ (ส่วนลดในที่นี้ หมายถึงโค้ดส่วนลดที่ร้านค้าให้แก่ลูกค้าเอง ไม่รวมส่วนลดที่เป็นของ Shopee Campaign หรือ Shopee coin)

  • 4101xx - รายได้จากการขายสินค้า

  • 4102xx - รายได้จากการให้บริการ

  • 4103xx - รับคืนและส่วนลดจ่าย

Q9 : ใน 1 ร้านค้า สามารถเชื่อมต่อกับ PEAK ได้หลายกิจการหรือไม่

Answer: 1 ร้านค้าสามารถเชื่อมต่อกับ PEAK ได้กิจการเดียวเท่านั้น แต่ PEAK สามารถเชื่อมต่อร้านค้าได้สูงสุด 5 ร้านค้า โดยร้านที่ 2-5 จะมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม 300บาท/1ร้านค้า/1เดือน สามารถกรอกแบบฟอร์มนี้ เพื่อให้ทางฝ่ายขายติดต่อกลับและออกใบเสนอราคา

Q10 : ส่วนของคำอธิบายรายการของเอกสารจะแสดงข้อมูลอะไร

Answer: ชื่อสินค้า (สูงสุด 120 ตัวอักษร) + หัวข้อ Variance (สูงสุด 14 ตัวอักษร) + ชื่อ Variance (สูงสุด 20 ตัวอักษร) = สูงสุด 154 ตัวอักษร

Q11 : กรณีเอกสารไม่ถูกส่งมาที่ PEAK สามารถตรวจสอบได้อย่างไร

Answer: สามารถตรวจสอบโดยใช้วิธีเทียบรายการใบเสร็จรับเงินบน PEAK กับรายงานยอดขาย Shopee สถานะ"ที่ต้องจัดส่ง" เป็นต้นไป ได้ดังนี้

  1. ค้นหาใบเสร็จรับเงินจาก Tag "Shopee" และ "ชื่อร้านค้า" เพราะเอกสารที่ส่งจาก API จะมีการติด Tag เป็นชื่อแพลตฟอร์มและชื่อร้านค้าให้ ตัวอย่างการค้นหาเอกสารตามแท็ก (Tag)

  2. สามารถ Export ข้อมูลจาก PEAK เป็นไฟล์ Excel โดยกดค้นหาขั้นสูง


    ระบุผู้ติดต่อที่ผูกไว้ตามการตั้งค่า > กดค้นหา
    เมื่อระบบแสดงรายการตามชื่อผู้ติดต่อให้แล้ว กดที่ปุ่มพิมพ์รายงาน


    จากนั้นให้ดูข้อมูลจาก Column "เลขที่อ้างอิง"


    เทียบกับข้อมูล "เลขที่คำสั่งซื้อ" จากไฟล์ยอดขายของ Lazada ได้


    หากมีรายการจับคู่กันได้ครบถ้วนหมายถึงคำสั่งซื้อถูกส่งมาครบการจับคู่อาจใช้ฟังก์ชันExcelช่วย เช่น การใช้ฟังก์ชัน VLOOKUP

Q12 : ความแตกต่างของเอกสารที่สร้างเองและสร้างโดย Shopee

Answer: สามารถสังเกตได้ง่ายๆ 4 ส่วน ดังนี้

  1. ชื่อผู้ติดต่อ (Contact) เพราะเอกสารที่สร้างจาก Shopee จะเป็นไปตามการตั้งค่า (Contact) ที่ได้ตั้งค่าไว้

  2. เลขที่เอกสารอ้างอิง โดยระบบจะอ้างอิงจากเลขที่คำสั่งซื้อของ Shopee

  3. การติด Tag เอกสาร เอกสารที่มาจาก API จะมีการติด Tag เป็นชื่อแพลตฟอร์ม และชื่อร้านค้า

  4. ประวัติเอกสาร จะมีการระบุในขั้นตอนสร้างเอกสารว่า "สร้างจาก API"

Q13 : กรณีกิจการได้มีส่งข้อมูลจากโปรแกรม ZORT มายัง PEAK เพื่อออกเอกสาร โดยใน PEAK มีเปิดให้คำนวณต้นทุนขายอยู่ เอกสารที่ออกจะบันทึกต้นทุนขายตาม ZORT หรือ PEAK

Answer: ระบบการคำนวณต้นทุนขายจะยึดตาม PEAK

Q14 : สินค้าจัดชุดสามารถส่งมาสร้างเอกสารที่ PEAK ได้หรือไม่

Answer: ระบบยังไม่รองรับสินค้าจัดชุดจึงยังไม่สามารถทำได้ และยังไม่มีวิธี Workaround เบื้องต้น

Q15 : กรณีมีการเชื่อมต่อ PEAK x Shopee แล้วแต่ไม่ได้ใช้งาน ระบบจะเชื่อมต่อให้เหมือนเดิมหรือไม่

Answer: กรณีมีการเชื่อมต่อ PEAK x Shopee แล้วแต่ยังไม่ได้ใช้งานเกิน 90 วัน ตัว Token ที่ใช้ในการเชื่อมต่อจะหมดอายุ และผู้ใช้งานจะต้องทำการเชื่อมต่อใหม่

Q16 : กรณีมีการเชื่อมต่อ API จาก Shopee ในระบบ PEAK มีสินค้านี้อยู่แล้ว (รหัส SKU เดียวกัน) แต่ชื่อสินค้าต่างกันนิดหน่อย ระบบ PEAK จะดึงข้อมูลมาได้หรือไม่

Answer: ระบบจะทำการตรวจสอบจากรหัสสินค้า จะไม่ได้ตรวจสอบจากชื่อสินค้าค่ะ หากรหัสสินค้าตรงกันแต่ชื่อต่างกันนิดหน่อย ระบบ PEAK ก็สามารถดึงข้อมูลจาก Shopee มาสร้างเอกสารให้

Did this answer your question?